no right click


Friday, May 20, 2011

ตอนที่ 8. Love or Lust: เมาพิษรัก พิศวาสร้อน

ตอนที่ 8. Love or Lust: เมาพิษรัก พิศวาสร้อน

วันเสาร์ต่อมา งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสขนาดย่อมๆ ก็ถูกจัดขึ้นตรงบริเวณลานหน้าบ้าน และมันเป็นไปตามคำของเมืองแมนทุกอย่าง นอกจากข้าวปลาอาหารที่มีครบครันแล้ว ยังมีคณะหนังตะลุงและโนราห์ชื่อดังมาเล่นให้ชาวบ้านและคนงานประจำเหมืองได้ดูกันอย่างสนุกสนานเปรมปรีดิ์
มีความสุขกันถ้วนหน้าทั้งผู้มาร่วมงาน รวมทั้งเจ้าภาพอย่างคุณหญิงอรวราและมุกตาภาผู้เป็นเจ้าสาว
ยกเว้นเจ้าบ่าวของงาน ซึ่งนั่งเงียบ ไม่พูดไม่จากับใคร และกระดกเหล้าเข้าปากราวกับน้ำเปล่า...
มุกตาภาลอบสังเกตอาการสามีที่มีท่าทีเปลี่ยนไปตั้งแต่ช่วงเย็น เขาเงียบ ขรึม และไม่พูดอะไรกับเธอสักคำ ปกติเขาก็ชอบทำหน้าตาเครียดขรึม แต่มันไม่ใช่อย่างที่เขาแสดงอยู่ในขณะนี้ เพราะเขาดูเหมือนคนอมทุกข์ หรือกำลังคิดอะไรอย่างหนัก โดยไม่คิดสนใจสิ่งรอบข้างเลยสักนิด
จนเมื่อเวลาล่วงเลย แขกเหรื่อที่มาร่วมงานเริ่มเบาบาง หนังตะลุงโนราห์ปิดโรงเลิกเล่น และหนังตาของเธอก็เริ่มหนักอึ้ง มุกตาภาจึงเดินไปลาสามีเพื่อขึ้นไปพักผ่อนตามคุณหญิงอรวราซึ่งหนีไปก่อนหน้าแล้ว
มุกขอตัวก่อนนะคะคุณเอิร์ธ เธอเดินเข้าไปบอกสามีซึ่งนั่งทำหน้าเครียดอยู่กับสมาชิกในวงเหล้าของเขา
ทว่าดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจกับคำบอกกล่าวของเธอสักนิด มุกตาภาจึงได้แต่เดินขมวดคิ้วขึ้นไปนอนตามลำพัง ปล่อยให้สามีนั่งสังสรรค์กับคนงานอีกจำนวนนึง ซึ่งยังตั้งวงดื่มเหล้ายาที่มีให้บริการอย่างมากมายหลากหลายชนิด ชนิดที่ดื่มกันทั้งคืนก็ไม่หมด

อิศม์เดชยกเครื่องดื่มมึนเมากรอกผ่านเรียวปากแดงได้รูปแก้วแล้วแก้วเล่า โดยไม่สนใจว่านี้คืองานเลี้ยงฉลองสมรสของตัวเองเลยสักนิด ไม่สนใจผู้คนที่มาร่วมงาน ไม่สนใจเพื่อนนั่งร่วมวง และไม่สนใจภรรยาที่โดนทิ้งให้นั่งหง่าวอยู่กับวงของสาวๆ ในเหมือง
ชายหนุ่มดื่มหนักราวกับคนที่ต้องการดื่มเพื่อให้ลืมอะไรสักอย่าง
ทว่าภาพที่ต้องการจะลืม... มันกลับปรากฏเด่นชัด ยิ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์ในตัวมากเท่าใด หูของเขาก็ได้ยินแต่น้ำเสียงหวานที่เขาคุ้นเคยมาช้านานดังชัดเจนขึ้นเท่านั้น
นั่นเพราะอิศม์เดชเฝ้าวนเวียนคิดถึงคำขอคืนดีของซาแมนต้า ภรรยาเก่าที่หอบผ้าหอบผ่อนรวมทั้งลูกสาวตัวน้อยวัยไม่ถึงขวบหนีเขาไปเมื่อห้าปีก่อน และเพิ่งโทรมาหาเขาก่อนหน้าที่เขาจะเดินออกมาร่วมงานเลี้ยงพอดี แล้วมันก็เป็นสาเหตุใหญ่ให้เขาดื่มเหล้าจนเมาหัวราน้ำอยู่ในขณะนี้
ไม่ว่าเสียงเพลงจะดังขนาดไหน เสียงผู้คนจะเซ็งแซ่เพียงใด อิศม์เดชไม่ได้ยิน...
สิ่งที่ดังก้องอยู่ในหูของเขาคือถ้อยคำเจือสะอื้นที่เขาเพิ่งได้ยินจากปากภรรยาเก่าเท่านั้น
เอิร์ธคะ แซมขอโทษ แซมผิดเอง แซมรักคุณ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ยคะ


ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูด้านหน้าห้อง ปลุกให้มุกตาภาต้องงัวเงียขึ้นมาคว้าเสื้อคลุมมาสวม แล้วเดินสะลึมสลือไปเปิดประตู ออกจะแปลกใจ เพราะถ้าเป็นเจ้าของห้องก็น่าจะเปิดเข้ามาเองได้เลย เพราะห้องก็ไม่ได้ล็อค
แล้วภาพอิศม์เดชที่โดนเมืองแมนและไข่นุ้ยหิ้วปีกอยู่ตรงหน้าประตูก็ทำให้เธอได้คำตอบทุกอย่าง และเธอก็ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่จะต้องเห็นสามีโดนหามมาส่งที่ห้องด้วยสภาพไร้สติเช่นนี้
ขอโทษนะครับนายหญิงที่ต้องมารบกวนดึกๆ นายเหมืองแกดื่มหนักเสียจนเมาเดินไม่ไหวน่ะครับ พวกผมเลยต้องแบกมาส่ง
เมืองแมนรายงานอย่างเกรงใจ จะลากไปนอนห้องพักตัวเองก็กลัวเพื่อนตื่นขึ้นมาเตะพรุ่งนี้เช้า เลยชวนไข่นุ้ยที่ก็เมาไม่แพ้กันมาส่งบนห้อง
จริงๆ ถ้านายเหมืองหนุ่มไม่ริอุตริดื่มสุราเถื่อนที่ชาวบ้านแถวนี้ต้มเองและเอามาฝาก ก็คงไม่ต้องหิ้วปีกมาส่งกันแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับนายเหมืองคืนนี้ ซึ่งกลายเป็นคนที่ไม่พูดจาอะไร นอกจากซดเหล้าลูกเดียว
มะ ไม่เป็นไรค่ะ งั้นช่วยอุ้มคุณเอิร์ธไปวางบนเตียงให้มุกหน่อยนะคะ
เธอบอก ก่อนหันหลังเดินไปห้องน้ำ และเตรียมน้ำใส่กะละมังเพื่อมาเช็ดตัวให้คนเมา แต่เธอคงไม่กล้าถอดเสื้อผ้าของเขาหรอก คงต้องให้สองหนุ่มจัดการให้ ทว่าเมื่อเธอกลับออกมาข้างนอกอีกครั้ง สองหนุ่มก็หายไปแล้ว
มุกตาภาทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ นายเหมืองตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ จะให้เธอถอดเสื้อผ้าของเขาออกได้ยังไง และถึงจะเคยเห็นแผงอกแกร่งเปลือยเปล่าที่ทำให้เธอเข่าอ่อนอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่ย้ายมานอนห้องเดียวกัน แต่จะให้เธอทำเรื่องแบบนี้ มันไม่ง่ายเลย และเธอคงทำไม่ได้
เอาวะ คนเมา ไม่รู้เรื่องหรอก มุกตาภาให้กำลังใจตัวเอง ก่อนวางของในมือตรงโต๊ะหัวเตียง แล้วหย่อนกายนั่งข้างๆ ร่างใหญ่ที่นอนสลบไม่รู้เรื่องรู้ราว
ทำไมถึงได้ดื่มกันจนเมาหมดท่าขนาดนี้นะ น่าจะให้นอนตากยุงอยู่ข้างนอกก็ดี
เสียงหวานบ่นระงม มือบางสั่นระริกก็แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตออกอย่างช้าๆ แผงอกอุดมไปด้วยมัดกล้ามเฉกเช่นชายชาตรีที่เธอนอนเอาหน้าแนบอยู่ทุกเช้า ก็ค่อยๆ โผล่ออกมาให้เห็น และทำให้เธอเริ่มหายใจติดขัดมากยิ่งขึ้นไปทุกที
หญิงสาวต้องผ่อนลมหายใจอย่างหนัก ก่อนจะค่อยๆ ปลดเข็มขัดหนังและกระดุมกางเกงยีนส์ออกเพียงเม็ดเดียว เพื่อไม่ให้เขาต้องนอนอย่างอึดอัดนั่นเอง เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตรงไรผม ยามดวงตากลมโตปะทะเข้ากับไรขนเป็นทางยาวซึ่งโผล่พ้นขบกางเกงออกมา ใบหน้างามสะบัดหนีภาพนั้นทันที แล้วต้องบังคับสายตาตัวเองไม่ให้มองต่ำลงไปอีกครั้ง
ปลดแค่นี้ก็พอนะคะ คุณเอิร์ธ เธอบอกกับคนเมา ทั้งยังยิ้มให้เขาด้วย มีความสุขที่ได้ดูแลเขา ไม่ได้รังเกียจเลยสักนิด
มุกตาภาใช้ผ้าเช็ดตัวบิดหมาดๆ มาเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอแข็งแรงอย่างอ่อนโยน พลางสำรวจสามีตีทะเบียนของตัวเองอย่างละเอียดลอออีกครั้ง
ใบหน้าคมคายดูอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ ยามที่เจ้าตัวหลับไม่รู้สึกตัวเยี่ยงนี้ นั่นคงเพราะดวงตาคมดุนั้นปิดสนิทอยู่ภายใต้เปลือกตาที่มีแพขนตายาวจนสาวๆ ต้องอิจฉานั่นเอง แก้มสากทว่าดูน่าสัมผัสก็รกไปด้วยไรเคราเขียวครึ้ม ยิ่งทำให้เขาดูดุดันยิ่งขึ้นไปอีก
ทั้งๆ ที่หลายครั้ง มุกตาภารู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย มีอะไรหลายๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าเหี้ยมเกรียมไร้ซึ่งรอยยิ้มของเขา
ผ้าชุบน้ำเย็นๆ ที่กำลังโดนเช็ดไปตามใบหน้าและลำตัว รวมทั้งแผ่นอกกว้าง ก็ปลุกให้อิศม์เดชงัวเงียๆ ปรือตาตื่นขึ้นมา ภาพเบลอๆ ของผู้หญิงผมยาวที่ค่อยๆ ปรากฎตรงหน้าคนเมาจนไม่ได้สติ ก็ยิ่งทำให้สติของเขาหลุดลอยยิ่งขึ้นไปอีก ถึงดวงตาคมจะพร่ามัว ทว่าหยาดเยิ้มไปด้วยเพลิงพิศวาสแสนร้อนแรงยิ่ง
คนเมาพิษรักคว้าข้อมือน้อยที่กำลังเช็ดหน้าอยู่ ก่อนรำพึงรำพันสิ่งที่อยู่ในใจไม่ขาดปาก
แซม คุณจริงๆ ด้วย คุณกลับมาหาผมแล้วใช่มั้ย ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน โอ ที่รัก อย่าจากผมไปอีกนะ
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาเป็นภาษาอังกฤษที่คนฟังก็เข้าใจดี มือน้อยที่อยู่ในอุ้งมือใหญ่ก็โดนจุมพิตครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่ามันคือการับขวัญการกลับมาของภรรยาผู้หนีหายไปนาน
นี่สินะ คือเหตุผลของความผิดปกติของเขา เพราะคิดถึงภรรยาเก่าของเขานี่เอง... เธอยังจำชื่อภรรยาเก่าของเขาได้จากคำบอกเล่าของอรวรรญา
มุกตาภาสะอึก ก่อนสะอื้นในใจ ความน้อยใจและเสียใจเอ่อท่วมท้นก้นบึ้งของหัวใจอย่างช่วยไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รัก และเราไม่ได้รักกัน แต่ก็อดเสียใจไม่ได้ หญิงสาวพยายามชักมือกลับ ทว่าอีกฝ่ายก็คว้าไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
ปล่อยมุกเถอะคะ เธอร้องบอก พลางสะบัดมือแรงขึ้น ทว่ามันกลับทำให้แววตาที่มองเธออย่างรักใคร่อ่อนโยนเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์
ทำไม คุณจะหนีไปผมไปอีกใช่มั้ย ไม่มีวัน
น้ำเสียงเขาเหี้ยมเกรียม และมีกลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมากับลมหายใจร้อนผ่าว มุกตาภาสะบัดตัวหนี ทว่าโดนแขนล่ำกระชากทีเดียว ร่างเล็กก็ลอยหวือขึ้นไปนอนซ้อนอยู่บนแผ่นอกกว้างของเขา
ปล่อยมุกเดี๋ยวนี้นะ คุณเอิร์ธจะทำอะไร
มุกตาภาใจหายวาบ ดิ้นแรงขึ้นเพื่อให้พ้นจากการเกาะกุมของเขา ทว่านอกจากจะไม่เป็นผลแล้ว ร่างเล็กยังโดนเหวี่ยงลงไปบนที่นอน แล้วร่างใหญ่ก็พลิกตัวขึ้นทาบทับเธอไว้ทั้งตัว มุกตาภาหวีดร้องลั่น....
กรี๊ดด คุณเอิร์ธ ปล่อยมุกนะคะ
เสียงหวานร้องอย่างคนตกใจแทบสิ้นสติ ร่างเล็กดิ้นเร่าอยู่ภายใต้ร่างใหญ่สุดกำลัง มุกตาภากลัวจนตัวสั่น เพราะสามีของเธอไม่อยู่ในสภาพที่จะเข้าใจในคำขอของเธอสักนิด
อิศม์เดชกอดร่างเล็กแน่น ให้สมกับความคิดถึงที่คลาคล่ำอยู่ในหัวใจของเขา สายตาคมทอดมองร่างใต้อาณัติด้วยแววตาคมที่อ่อนโยน ทว่าไร้สติ เพราะเขาไม่ได้รู้ตัวสักนิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร
อย่าไปไหนเลยนะ... อยู่กับผม... ได้โปรด...
น้ำเสียงเขานุ่มนวลขึ้น มือหนายกขึ้นกรีดไล้ไปตามแก้มใสที่แดงเรื่อจากความเขินอาย เพราะแววตาท่าทีแสนอ่อนโยนของเขา ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ได้มอบให้เธอ แต่เป็นภรรยาเก่าเขาต่างหาก
คุณเอิร์ธเมามาก นอนเถอะค่ะ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานซึ้ง ปล่อยก่อนนะคะ มุกจะไปเอาชุดนอนมาให้คุณเอิร์ธเปลี่ยน เธอบอก พลางออกแรงดิ้นอีกครั้ง เพราะไหนๆ เขาก็มีสติแล้ว ก็ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนอนจะได้ไม่อึดอัด
ทว่าคนฟังที่เมาทั้งสุราและเมาทั้งรัก กลับตีความเป็นอื่น คิดว่าคนรักต้องการจะหลีกหนีไปให้พ้นจากเขาอีกครั้งแล้ว... แล้วมันก็ทำให้ดวงตาคมลุกโชนด้วยประกายไฟขึ้นมาทันที
ไม่!! ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไปไหนอีกแล้ว คุณต้องเป็นของผมคนเดียว
ทันทีที่สิ้นน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมทรงอำนาจ ใบหน้าคมก็ซุกซบลงบนซอกคอขาวผ่อง ขบเม้มประทับตราความเป็นเจ้าของ ว่าร่างน้อยแสนนุ่มนิ่มนี้เป็นของเขาคนเพียงคนเดียวเท่านั้น
กรี๊ดด คุณเอิร์ธ ปล่อยยย
มุกตาภาตวาดลั่นกับอาการคุกคามข่มเหง รู้สึกเจ็บแปล๊บปนวาบหวิวยามโดนเขาจับจองจนขึ้นรอยแดงจนเขียวจ้ำไปทุกตารางนิ้วที่เรียวปากร้อนจัดลากพาดผ่าน ร่างน้อยก็ดิ้นรนหลีกหนีสุดแรง มือน้อยทุบตี หยิกข่วนไปตามร่างใหญ่ ทว่าเขาไม่สะทกสะท้านกับแรงมดของเธอสักนิด
ทำไมถึงหนีผมไป คุณรู้มั้ยว่าผมรักคุณ รักลูกที่สุด
อิศม์เดชยังรำพึงรำพัน ด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งแค้นที่โหมกระหน่ำอยู่ในใจ เรียวปากร้อนยังดูดดึง ขบเม้ม จมูกโด่งยังซอนไซ้ไปทั่วๆ เนินอกอิ่มที่โผล่พ้นชุดนอนลายแตงโมน่ากินนั่น มือหนาก็ลูบไล้ไปตามร่างอิ่มเต็มไม้เต็มมือ บีบเคล้นเบาบ้างแรงบ้างตามกระแสไฟพิศวาสที่ลุกพึ่บพั่บ เพราะโดนสุมไว้เป็นเวลานาน ทั้งจากคนรักเก่าและคนชิดใกล้นั่นเอง
ฮือ คุณเอิร์ธ อย่าค่ะ
มุกตาภาร้องไห้โฮ สะอื้นไห้ตัวโยน หวาดกลัวกับท่าทีของเขาในตอนนี้อย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เธอทำผิดอะไรถึงได้มาเจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรของเธอ เมื่อครั้งนิรุจน์ก็ทีนึงแล้ว แล้วนี่ต้องมาเผชิญกับอารมณ์ฝ่ายต่ำของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีด้วยอย่างนั้นหรือ...
บอกผมสิแซม ผมไม่ดีตรงไหน คุณถึงได้ทิ้งผมไป ผมจะพิสูจน์ให้คุณดู ว่าผมมีดีกว่าไอ้คนนั้นของคุณ
ใบหน้าคมฉายแววแค้นเคือง น้ำเสียงอ้อๆ แอ้ๆ ทว่าเกรี้ยวกราดนั้น ก็ทำให้เธอรู้ว่า เขาอยู่ในอารมณ์ใด และพร้อมจะทำอะไรกับเธอ...
เพราะนอกจากจะสื่อมาทางวาจาแล้ว ภาษาทางกายของเขาก็ปลุกเร้าให้อารมณ์เธอพร้อมจะกระเจิดกระเจิงไปกับเขาได้อย่างง่ายๆ ตามประสาคนไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเยี่ยงนี้มากมายเท่าใดนักนั่นเอง
มุกตาภาปวดร้าวใจ ไม่อยากเป็นตัวแทนของใคร และไม่ต้องการรองรับอารมณ์ปรารถนาของเขาแทนที่ผู้หญิงอื่นด้วย
เจ็บ... เจ็บเหลือเกิน ความเจ็บทางกายมหาศาลเพียงใด หาเทียบได้กับความเจ็บปวดรวดร้าวในห้วงหัวใจของเธอได้แม้เพียงสักนิด
ถ้อยคำรักที่เขาพร่ำเพ้อหาสาวคนรักเก่านั้น มันก็บาดลึกกรีดเฉือนหัวใจไม่ต่างกับโดนหอกแหลมพุ่งแทงอย่างแรง
คะ...คุณเอิร์ธอย่าค่ะ นะ...นี่มุกนะคะ ไม่ใช่คุณแซม
มุกตาภาให้สติคนเมาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า มือน้อยผลักไสร่างใหญ่ออกจากตัวเท่าที่กำลังจะอำนวย ทว่าไม่เป็นผล... และไม่มีทางเป็นผล
กลับมาเป็นของผมเถอะนะคนดี
เขากระซิบเว้าวอนแนบแก้มนุ่มแดงเรื่อ พลางจูบซับน้ำตาปลอบประโลมให้เธออย่างอ่อนโยน มือหนาบีบเคล้นอย่างหนักหน่วงลงบนทรวงอกอิ่มจนมันแทบแหลกคามือ
ไม่... อะ อย่า อุ๊บส์
เสียงหวานอุทธรณ์ออกมาได้แค่นั้น ก็โดนคนเมาทั้งเหล้าเมาทั้งรักประกบจูบอย่างหิวกระหาย บดขยี้อย่างกระแทกกระทั้นอย่างคนที่เต็มไปด้วยพิษรักแรงแค้น จนเนื้อเยื่ออ่อนนุ่มในโพรงปากสวยช้ำระบมและห้อเลือด....

ติดตามได้ในรูปเล่ม เร็วๆ นี้ค่ะ

No comments:

Post a Comment