no right click


Wednesday, May 18, 2011

ตอนที่ 3. Eliminating Plan I: หน้าซื่อใจคด หน้าสลดเพราะสามี

ตอนที่ 3. Eliminating Plan I: หน้าซื่อใจคด หน้าสลดเพราะสามี

รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อเคลื่อนเขาจอดสนิทตรงลานหน้าบ้านไม้สักสองชั้นหลังใหญ่ที่มีบริเวณบ้านกว้างขวางและสวยงามร่มรื่นด้วย สวนดอกไม้นานาพันธุ์ซึ่งปลูกไว้อย่างสวยงามรอบๆ ตัวบ้าน หลังบ้านก็มีห้วยน้ำขนาดย่อมไหลผ่าน ยิ่งเพิ่มให้บ้านหลังนี้ดูชุ่มชื่นและน่าอยู่อีกขึ้นเป็นกอง
อิศม์เดชขยับตัวด้วยความเมื่อยขบ เพราะขับรถตรงมายังเหมืองโดยไม่หยุดพักที่ไหนอีกเลย จึงทำให้เขามาถึงเหมืองในเวลาหกโมงเช้าของเช้าวันต่อมา
ใบหน้าคมเข้มหันไปมองภรรยาสาวที่ยังนอนขดตัวหลับปุ๋ย ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมารับรู้ว่าได้เดินทางถึงที่หมายแล้ว เรียวปากได้รูปกระตุกยิ้มอย่างเอ็นดูคนขี้เซา มือหนายกขึ้น หวังเอื้อมไปปลุกให้เธอตื่นขึ้น เพื่อให้หญิงสาวไปนอนต่อให้สบายๆ ในห้องนอน ทว่ามือที่เกือบแตะเข้ากับท่อนแขนกลมกลึงก็ชะงักค้างในอากาศ
อิศม์เดชเปลี่ยนใจ เพราะไม่อยากจะแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่า ตัวเขาเองก็ใส่ใจในตัวเจ้าสาวเช่นกัน ที่ผ่านมาเขาก็รู้สึกผิดกับความรู้สึกในใจพอแล้ว
ร่างสูงใหญ่ถึง 185 เซ็นติเมตรจึงเปิดประตูรถออกมายืนยืดเส้นยืดสายอยู่ข้างๆ ตัวรถแทน  โดยไม่หันไปสนใจคนที่ยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในรถอีกต่อไป และถึงจะเหนื่อยล้า แต่เขาก็พร้อมจะเข้าไปดูงานในเหมืองซึ่งปล่อยให้เมืองแมนดูแลคนเดียวอยู่เป็นนานแล้ว
ช่วงขายาวที่กำลังจะเดินตรงไปยังออฟฟิศซึ่งถูกสร้างอยู่ไม่ไกลกับตัวบ้านต้องหยุดอยู่กับที่ เมื่อเสียงแหลมหวานดังมาก่อนตัวของวันเพ็ญ แม่บ้านที่คอยดูแลอาหารการกิน ทำความสะอาดบ้าน รวมทั้งให้ความสุขกับเขาในยามที่เขาเรียกใช้เรียกหาด้วย
นายเหมือง กลับมาแล้วหรือคะ
คนที่ทะเยอทะยานหวังเลื่อนขั้นเป็นนายหญิงของเหมืองแห่งนี้มานานนมปรี่เข้าเกาะกอดร่างใหญ่เอาไว้อย่างออดอ้อนออเซาะ
เหนื่อยไหมคะ ให้เพ็ญเตรียมน้ำอุ่นให้อาบนะคะ นายเหมืองจะได้สบายตัว
เสียงหวานพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย สายตาหวานฉ่ำก็มองคนตรงหน้าอย่างทั้งรักทั้งหลงและศรัทธาถวายหัวให้
หล่อนต้องหักห้ามใจไม่ให้แสดงสีหน้าเกลียดชังยามหันไปมองคนที่จะมาแย่งนายเหมืองไปจากหล่อนในรถนั่น เพราะสำหรับนายเหมืองแล้ว หล่อนก็เป็นแค่ข้ารับใช้แสนซื่อสัตย์ที่ไม่ว่าเขาจะหยิบยื่นอะไรมาให้ หล่อนก็น้อมรับไว้ด้วยความเต็มใจ
ทว่าความจริงแล้วไม่ใช่ หล่อนจะไม่มีวันปล่อยให้นายเหมืองรูปหล่อเงินหนักคนนี้ตกไปเป็นของหญิงอื่นใดเป็นอันขาด แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตหล่อนก็ยอม...
 “ไม่เหนื่อย ฉันจะไปดูงาน อิศม์เดชแกะมือที่เกาะแข้งเกาะขาเขาอยู่ออกอย่างรำคาญ ก่อนบอก โดยไม่มองหน้าหล่อนเลยสักนิด


ถึงวันเพ็ญจะเป็นคนรูปร่างหน้าดาดีเกินมาตรฐานชาวบ้านแถวนี้ ทว่าอิศม์เดชก็ไม่เคยรู้สึกพิศวาสสาวครบสูตรเนื้อนมไข่ไม่พอ ยังช่างเอาอกเอาใจตรงหน้าเลยสักนิด
ถ้าเพียงเขากลายเป็นพระอิฐพระปูนเต็มตัว หรือเพียงหญิงสาวไม่ยินยอมสนองตอบต่อความต้องการให้กับเขา โดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรมากไปกว่าเงินเดือนที่มากกว่าคนงานคนอื่นหลายเท่าอยู่ เขากับหล่อนก็คงไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมายาวนานเป็นเวลากว่าสามปีเยี่ยงนี้เป็นแน่
นายเหมืองไม่พักผ่อนสักนิดหรือคะ ให้เพ็ญนวดตัวผ่อนคลายความเมื่อยสักนิดก็ดีค่ะ
หล่อนชักชวนเขาทั้งหน้าทั้งตา เพราะรู้ดีว่ามันจะจบลงที่ใด มือเล็กที่โดนปัดทิ้งไปแล้วก็ยกขึ้นลูบไล้ไปบนแผงอกแกร่ง ที่ให้ความเร่าร้อนให้กับหล่อนจนแทบตายคาอกนายเหมืองคนนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
ไม่ใช่แค่ฐานะหน้าตาของนายเหมืองเท่านั้นที่หล่อนหลงรัก รสรักและลีลาบนเตียงของเขาก็ทำให้หล่อนหลงอิศม์เดชหัวปักหัวปำ หล่อนจะไม่ขอไปมีใครใหม่ และจะไม่ยอมให้ชายหนุ่มไปมีใครใหม่ รวมทั้งนังผู้หญิงคนนี้ด้วย
วันเพ็ญคิดอย่างเคียดแค้นพลางปรายหางตาแสนเกลียดชังไปมองมุกตาภา ซึ่งก็เริ่มขยุกขยิกตัว ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี หล่อนจึงต้องยิ่งประกาศความเป็นเจ้าของนายเหมืองให้อีกฝ่ายเห็นแบบไม่ทันตั้งตัว
แขนเรียวโอบเข้ารอบเอวสอบ พลางซบหน้างามของตนบนหัวไหล่ของเขา เอ่ยชวนชายหนุ่มอย่างออดอ้อน และอย่างตั้งใจให้คนที่เพิ่งลืมตาตื่นมาเห็นจังๆ
นะคะ ให้เพ็ญดูแลนายเหมืองให้หายเหนื่อยนะคะ เสียงของหล่อนแหบพร่า
คนที่รู้สึกร้อนรุ่มด้วยอาการแปลกๆ กัดฟันข่มความพลุ่งพล่านที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้อย่างง่ายๆ กับวันเพ็ญเลยสักนิด อิศม์เดชไม่เข้าใจตัวเอง
ไว้คืนนี้ละกัน นายเหมืองหนุ่มตัดความ ตอบรับความหวังดีของอีกฝ่าย ด้วยเพราะเนื้อตัวร้อนผ่าวของเขา...จากสาเหตุใดเขาก็ไม่รู้ ต้องได้รับการเยียวยา
อิศม์เดชไม่อยากคิดให้กลัวใจตัวเองว่า มันมีสาเหตุมาจากความหอมละมุนที่เขาได้เชยชมไปไม่กี่ครั้งของภรรยาสาวนั่นเอง...
เอากระเป๋าของฉันไปเก็บ ส่วนของฝากพวกนี้ก็ไปแจกคนงานในเหมืองด้วยละกัน ก่อนสั่งความต่อ พลางชี้ไปถุงของกินเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขนมหม้อแกง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ที่ถูกแพ็คเอาไว้เป็นอย่างดี
แม้มุกตาภาจะเป็นคนซื้อของฝากจำพวกนี้มา แต่เขาก็ยังไม่อยากให้หญิงสาวต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนงานในเหมืองซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ชายสักเท่าใดนัก คนงานผู้หญิงที่มีอยู่เพียง 5 คนในจำนวนคนงาน 40 คน ก็ทำงานอยู่แต่ในออฟฟิศเท่านั้น
วันเพ็ญจึงจัดแจงคว้ากระเป๋าของอิศม์เดชไว้ในมือด้วยความกระตือรือร้น ทว่าพอจะคว้าไปถึงกระเป๋าเสื้อผ้าของผู้หญิง หล่อนก็ชะงักมือตัวเองเอาไว้ ไม่อยากจะแตะต้องหรือบริการมารหัวใจของตัวเองสักนิด แต่ก็ต้องจำใจทำ เพราะหล่อนไม่อาจเปิดเผยความชั่วร้ายในใจให้นายเหมืองหนุ่มรับรู้
ทว่าเสียงทุ้มที่ร้องสั่งออกมา ก็ทำให้วันเพ็ญต้องเต้นเร่าด้วยความดีใจ
เอาไว้นั่นแหละ เดี๋ยวเจ้าตัวตื่นขึ้นมาขนเข้าบ้านเอง อยู่ที่นี่ต้องรู้จักช่วยตัวเอง ไม่ได้อยู่เป็นคนหนูเหมือนอย่างเมืองกรุง
มุกตาภานั่งตกตะลึง อ้าปากตาค้าง กับท่าทีของสาวแปลกหน้ากับสามีตัวเองอยู่เป็นนาน และทนฟังถ้อยคำของเขาไม่ไหวอีกต่อไป จึงเปิดประตู พาตัวเองออกมายืนตัวสั่นพับๆ อยู่ข้างๆ ตัวรถ ก่อนจะปิดประตูรถดังโครมด้วยความโกรธเคืองปนน้อยใจ
อิศม์เดชสะดุ้งโหยงเพราะเสียงประตู และเพราะตกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาได้ยินคำของเขา
แล้วเธอจะได้ยินสิ่งที่เขาคุยกับวันเพ็ญก่อนหน้าหรือเปล่า แต่อิศม์ก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์ เพราะเขาไม่คิดจะอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับเธอจริงๆ อยู่แล้ว
ที่พามาหญิงสาวมาอยู่ที่นี่ด้วย ก็เพื่อให้มารดาของเขาวางใจและสบายใจเท่านั้น ทว่าในที่สุดแล้ว เขาก็จะขอเซ็นใบหย่าให้เธอเอง ให้หญิงสาวได้ไปมีชีวิตตามทางที่เธอเลือกไว้ ถึงแม้มันเป็นเส้นทางที่ผิด และเขาก็รังเกียจมันสิ้นดี
รถเพิ่งซื้อมาใหม่ๆ ปิดแรงๆ แบบนั้นเดี๋ยวก็ได้พังหรอก คนใจร้ายไม่วายเหน็บแหนมเสียงห้วนจัด
คำของเขา ทำเอาคนฟังอย่างวันเพ็ญต้องแอบอมยิ้มด้วยความสะใจ นายเหมืองไม่ได้มีใจให้นังผู้หญิงเมืองกรุงสักนิด อย่างนี้ก็ยิ่งง่ายในการกำจัด หัวใจหล่อนพองโต เรื่องทุกอย่างไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดสักนิด
ส่วนอีกคนก็น้อยใจจนน้ำตาตกในไม่พอ ยังรินไหลออกมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว มือบางรีบยกขึ้นปาดน้ำตาแห่งความอับอายทิ้ง ไม่จำเป็นต้องแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น
ทว่าอิศม์เดชก็ดันตาดี ทันเห็นเข้าพอดี หัวใจหนุ่มกระตุกวูบ รู้สึกผิดในใจอย่างประหลาดที่ทำให้ภรรยาตัวเองร้องไห้ อดคิดไม่ได้ว่า กี่ครั้งกี่หนกันแล้ว ที่เขาทำให้ผู้หญิงคนนี้เสียน้ำตา
แต่ก็คนเย็นชาก็รีบสลัดความคิดสงสารที่เริ่มเข้ามาเกาะกุมหัวใจทิ้ง ก่อนหันไปสั่งความวันเพ็ญอีกครั้ง
“พามุกตาภาไปพักผ่อนด้วยนะ ฉันจะไปดูงานที่เหมือง”
“ค่ะ นายเหมืองไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เพ็ญจะดูแลนายหญิงเป็นอย่างดีค่ะ”
วันเพ็ญรับคำเสียงหวาน ปลายเสียงนั้นต่ำลึก ยิ้มทั้งหน้าทั้งตาให้ร่างใหญ่ที่เดินจากไปไม่แม้แต่ลาเจ้าสาวหมาดๆ ของตัวเอง
วันเพ็ญปรายตามามองคนที่ถูกกล่าวถึงซึ่งยืนอึ้งกับความสัมพันธ์ของสองคนตรงหน้า ยิ้มหวานเคลือบยาพิษถูกส่งตามมา
“คุณคงต้องนอนห้องเล็กนะคะ นายเหมืองไม่ชอบนอนร่วมเตียงกับใคร เพ็ญรู้ดีเชียวล่ะค่ะ”
คนที่กำลังประกาศสิทธิ์ของตนเอ่ยเสียงหวาน ทว่ามันกรีดลึกเข้าไปในร่องหัวใจของคนฟังเป็นอย่างยิ่ง...
วันเพ็ญทิ้งระเบิดเสร็จ ก็เดินนวยนาดตรงไปยังตัวบ้าน ทิ้งให้คนช็อคกับข่าวสารที่ได้รับ ยืนแน่นิ่งอยู่กับหัวใจที่บีบคั้นจนเธอหายใจไม่ออก
ท่าทีและคำพูดของทั้งคู่ก็บอกได้แล้ว ว่าสถานะความสัมพันธ์ของวันเพ็ญและอิศม์เดชนั้นเป็นเช่นไร
เขามีผู้หญิงอยู่แล้ว มาแต่งงานกับเธอทำไม... มันไม่ยุติธรรมต่อเธอสักนิด หญิงสาวสะอื้นไห้ในอก ปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว
โชคดีที่เธอไม่ได้รักเขา ไม่งั้นเธอคงทั้งเจ็บทั้งช้ำยิ่งไปกว่านี้เป็นแน่ ที่ผ่านมาเธอยังเจ็บช้ำกับความรักไม่พอใช่ไหม...
น้ำตาแห่งความอาดูรไหลออกมาเป็นทางยาว ก่อนมันจะถูกปาดทิ้งไป...
มุกตาภาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด รวบรวมกำลังใจฮึดสู้กับชีวิตต่อ สลัดความโศกเศร้าทิ้ง ถือว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศสักพัก เพราะเธอเริ่มมั่นใจว่า เธอคงอยู่ที่นี่ได้ไม่นานเป็นแน่ ไม่เขาไล่เธอไป เธอก็เต็มใจเก็บกระเป๋ากลับกรุงเทพเอง
มือเล็กคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินตามวันเพ็ญไป
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหญ่ พร้อมกับสำรวจบริเวณรอบๆ ด้วยความตื่นตะลึงปนแปลกใจ ที่อยู่อาศัยของเขา ดูยังไงก็ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน โดยเฉพาะของตกแต่งและเครื่องอำนวยความสะดวกซึ่งมีอยู่ครบครันภายในตัวบ้าน ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องใช้ที่ล้ำหน้าทันสมัย ดีไซน์เก๋ไก๋ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นบ้านของผู้ชายโหดเถื่อนอย่างอิศม์เดชสักนิด
ห้องใหญ่ตรงนี้เป็นห้องของนายเหมืองค่ะ ส่วนสองห้องเล็กอีกฝั่งเป็นห้องนอนแขก คุณเลือกได้เลยค่ะ ว่าจะนอนห้องไหน
วันเพ็ญชี้แจงให้คนที่เพิ่งตามขึ้นมาถึงชั้นบนฟัง สีหน้าของหล่อนยิ้มแย้มแจ่มใส ทว่าฟันของหล่อนกลับถูกัดกันจนกรามแทบหักแล้ว อยากจะด่าว่า ไล่มุกตาภาให้พ้นบ้านหลังนี้ มากกว่าต้องฝืนยิ้มให้
งั้นมุกเลือกห้องนี้ละกันค่ะ มุกตาภาเดินไปยังห้องเล็กที่อยู่ไกลจากห้องใหญ่ ถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย อยู่ห่างๆ ไว้เป็นดีที่สุด ยิ่งเป็นคนมีห่วงมีเจ้าของอยู่แล้ว เธอต้องอยู่ห่างๆ เข้าไว้
แต่ที่แปลกก็คือ ทำไมวันเพ็ญถึงไม่มีท่าทีหวงผู้ชายของตัวเองอย่างที่วิภาดาคอยตามล่าตามด่ากับเธอสักนิด ข้อนี้ก็ทำให้มุกตาภายิ้มออก อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องคอยตั้งรับ หรือสู้รบตบมือกับวันเพ็ญ อย่างที่เธอต้องคอยทำอยู่กับวิภาดา
คนมองโลกในแง่ดี คิดในแง่ดี และนี้คือจุดอ่อนของมุกตาภา ที่วันเพ็ญมองได้ทะลุประโปร่ง....
คุณพักผ่อนตามสบายนะคะ นั่งรถมาเหนื่อยๆ ไว้ถึงเวลาอาหาร แล้วเพ็ญจะมาเรียกเองค่ะ
เสียงของหล่อนยังหวาน หน้าตาก็ต้อนรับแขกอย่างยิ่ง ถ้าคนเห็นรู้ว่ามันคือการเสแสร้งแสดงออกมา วันเพ็ญจะได้รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขาดารานำหญิงไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ค่ะ ขอบคุณนะคะ งั้นมุกขอตัวนะคะ นั่งรถมาเมื่อยจริงๆ
มุกตาภาลา ก่อนผลุบตัวเข้าไปในห้องจัดแจงอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอน ก่อนหลับไปอย่างง่ายดายเพราะความเหนื่อยอ่อนบนที่นอนนุ่ม
ส่วนคนที่ยืนอยู่ด้านนอก ก็ถลึงตาแห่งความริษยาใส่อยู่ตรงหน้าประตูอยู่เป็นนาน
ฉันไม่ให้แกอยู่ที่นี่นานหรอก นังมุกตาภา

ทำไปทำมา มุกตาภาก็หลับลึกจนไปถึงเวลาอาหารเย็น ซึ่งเธอต้องนั่งรับประทานคนเดียว เพราะอิศม์เดชติดงานซ่อมเครื่องจักรในโรงโม่หิน จึงยังไม่ได้กลับมาร่วมทานอาหารค่ำกับเธอด้วย หญิงสาวออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ไม่ต้องปั้นหน้าให้คนหน้ายักษ์อย่างเขา
หลังรับประทานอาหารเสร็จ มุกตาภาที่ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเพราะนอนมาทั้งวันก็เข้าไปนั่งดูทีวีอยู่ในห้องมินิโฮมเธียร์เตอร์ ซึ่งมีดีวีดีทั้งไทยและเทศให้เธอเลือกดูอย่างจุใจและเพลิดเพลินจนลืมเวล่ำเวลา กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้ว เธอจึงจัดแจงปิดไฟปิดโทรทัศน์แล้วเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของตัวเอง
แล้วในจังหวะที่ร่างเล็กเดินขึ้นไปตรงหัวมุมบันได เพื่อเลี้ยวแล้วเดินผ่านห้องใหญ่ของสามี ไปยังห้องของตัวเอง ภาพที่อันน่าอดสูหัวใจก็เข้ามากระแทกโสตประสาทการเห็นให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งขึ้นไปอีก...
อุ๊ย เสียงอุทานด้วยความตกใจของมุกตาภา ก็ทำให้คนที่กำลังแลกลิ้นกันอย่างเมามันต้องผละห่างจากกัน
อิศม์เดชตกใจไม่น้อย ที่ภรรยาป้ายแดงต้องมาเห็นเขาทำประเจิดประเจ้อกับวันเพ็ญอยู่หน้าห้องนอนของตัวเอง ปกติเขาไม่เคยแสดงความใกล้ชิดกับหล่อนต่อหน้าธารกำนัลแบบนี้
ทว่าในระหว่างที่เขาเดินขึ้นมาบนห้อง อิศม์เดชก็โดนวันเพ็ญจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างกายที่ร้อนรุ่มเพราะโดนไฟสุมไว้นาน ก็ตอบสนองหล่อนได้อย่างง่ายๆ เขาจึงจูบตอบหญิงสาวไปโดยทันที เพราะไม่คิดว่าคนที่น่าจะนอนหลับอยู่ในห้องนอนตัวเองจะมาเห็นเต็มๆ ตาแบบนี้
แววตาของวันเพ็ญทอประกายวิบวับ หล่อนเฝ้ารอเวลานี้มานานแล้วเหลือเกิน ไม่คิดว่าเวลาทุกอย่างมันจะประจวบเหมาะกันเช่นนี้...
หล่อนเฝ้ารอนายเหมืองอยู่เป็นนาน ใจจริงอยากเข้าไปนอนเปลือยกายรอท่าอยู่ในห้องนอน ทว่าหล่อนก็ขอเสี่ยงดวง เผื่อฟลุ๊คได้รางวัลแจ็กพ็อตเหมือนอย่างในตอนนี้ เพราะรู้ว่ามารหัวใจของตัวเองยังไม่ได้ขึ้นมานอนเช่นกัน
ดังนั้น แทนที่จะเข้าไปรอข้างใน หล่อนก็นั่งรอนายเหมืองหนุ่มอยู่หน้าห้องอย่างใจเย็นและเจียมตัว ถ้ามุกตาภาเดินขึ้นมาก่อน หล่อนก็เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องของเขา ให้เมียแต่งเห็นแบบจะๆ ให้เจ็บช้ำน้ำใจเล่นๆ
พอเห็นร่างสูงใหญ่เดินขึ้นบันไดมา หล่อนก็ลุกขึ้นยิ้มหวานเชิงยั่วยวนให้เขาทันที  และโชคก็เข้าข้างหล่อน เพราะเมื่อหล่อนได้ยินเสียงกุกกักๆ เดินขึ้นบันไดมา วันเพ็ญก็ขอเสี่ยงอีกครั้งด้วยการกระโดดจูบนายเหมืองหนุ่มทันที
และมันก็เข้าแผนทุกอย่าง เมื่ออีกฝ่ายจูบหล่อนตอบอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทั้งๆ ที่ปกติเขาน่าจะผลักไสหล่อนออกมาและต่อว่าเรื่องกิริยาอันไม่เหมาะไม่ควรเยี่ยงนี้
หล่อนยังจำสีหน้านังมุกตาภายามเห็นภาพของพวกเขาผลัดกันรุกผลัดกันรับได้เป็นอย่างดี สะใจหล่อนจริงๆ
แววตาหวานฉ่ำเพราะน้ำร้อนๆ เริ่มซึมผ่านออกนั้นไหวระริก คนเห็นยังยืนทำหน้าชื่นอกตรม อกระทมเพราะสามีของตัวเอง...
ขะ ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะคะ
มุกตาภาตะกุกตะกักบอกในเชิงประชดประชัน ก่อนเดินหนีภาพที่มันทุเรศลูกนัยน์ตาของเธอไปทันที
ร่างเล็กเดินผ่านหน้าทั้งคู่ไปยังห้องตัวเองไม่ต่างกับหุ่นยนต์ ร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของเธอแข็งทื่อ ราวกับก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ ทว่าหัวใจอ่อนระโหยโรยแรง
สิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเธอไม่ใช่หุ่นยนต์ แต่เป็นคน มีเลือดมีเนื้อ คือน้ำตาที่ไหลนองอาบแก้มนวลเป็นทางยาวของเธอนั่นเอง...
คนมองอย่างอิศม์เดชก็รู้สึกชาวาบตรงขั้วหัวใจ จะว่าเจ็บก็ไม่เชิง เพราะเขาไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ต้องเจ็บ กับการได้เห็นภรรยป้ายแดงของตัวเองเดินตัวสั่นจากไปเยี่ยงนี้ ไม่เห็นก็รู้ หญิงสาวคงกำลังร้องไห้อยู่เป็นแน่
ในขณะที่วันเพ็ญยืนแสยะยิ้มมองตามร่างเล็กเดินกลับห้องตัวเองด้วยช่วงไหล่ที่ห่อคุ้ม นัยน์ตาของหล่อนทอประกายแรงกล้าจนน่ากลัว อ่อนแอเป็นไก่อ่อนแบบนี้ จะอยู่ที่นี่ได้สักกี่น้ำ
ฉันจะกำจัดแกให้พ้นทางนังมุกตาภา อีกไม่กี่วัน แกก็ต้องหนีกลับกรุงเทพไปไม่ทันแน่
เพ็ญขอโทษนะคะนายเหมือง เพ็ญห้ามตัวเองไม่อยู่จริงๆ ค่ะ คิดถึงนายเหมืองเหลือเกิน
หล่อนหันมาทำเสียงรู้สึกผิดกับชายในดวงใจ ถึงจะอยู่ในแผนกำจัดเสี้ยนหนาม แต่หล่อนก็พูดออกมาจากใจจริง
ไม่เป็นไร เขาตอบ ก่อนเปิดประตูห้องแล้วเดินเข้าไปห้อง
วันเพ็ญเดินตามมา ตรงเข้าสวมกอดร่างใหญ่จากทางด้านหลัง
แต่เพ็ญรู้สึกไม่ดีจริงๆ นะคะ เมียนายเหมืองเข้าใจผิดแย่เลย ปากบอกรู้สึกเสียใจ ทว่าวันเพ็ญกลับแสยะยิ้มอยู่กับหลังแกร่งอย่างสาแก่ใจตัวเอง
ช่างสิ... มุกตาภาก็แค่ผู้หญิงที่ถือทะเบียนสมรสไว้เท่านั้น
เป็นอีกคนที่ปากบอกไม่แคร์ แต่ก็อดคิดสงสารในใจอยู่ไม่น้อย
มุกตาภาก็แค่ผู้หญิงที่มารดาหามาให้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องรัก เพราะตั้งใจว่าจะไม่รัก และเขาก็คงรักใครไม่ได้อีก เขาก็จะไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงสาวให้มันวุ่นวายเลยเถิด เมื่อถึงเวลาที่จากกัน จะได้จากกันได้อย่างง่ายๆ ไม่ต้องมีห่วงมีบ่วงผูกไว้ด้วยกัน...
ฉันจะอาบน้ำก่อน เขาบอกเสียงเนือยๆ ความพลุ่งพล่านที่สั่งสมมา เหมือนจะเหือดหายไป เมื่อได้เห็นแววตาโศกเศร้าของมุกตาภา
ให้เพ็ญเตรียมน้ำอุ่นให้นะคะ หล่อนเสนอเสียงแหบพร่า รู้ดีว่าการอาบน้ำกับเขานั้นเร่าร้อนได้ถึงเพียงใด
ไม่ต้องฉันจัดการเอง
พูดจบ เขาปลดมือที่รัดร่างใหญ่ออก แล้วเดินหลังเข้าห้องน้ำ จัดการชำระคราบไคล พร้อมกับชะล้างความรู้สึกผิดในใจให้หมดสิ้นไปพร้อมกันด้วย
ฝ่ายวันเพ็ญยืนเชิดหน้ายิ้มให้กับแผนที่จะต้องสำเร็จในเร็ววัน แต่แค่นี้มันยังไม่พอหรอก...
ตีเหล็กต้องตีในขณะที่มันยังร้อน อยากจะใส่ไฟคนหัวอ่อน ก็ต้องทำมันตอนนี้ ตอนที่เรื่องมันเพิ่งเกิดสดๆ ร้อนๆ ดีที่สุด ว่าแล้ว วันเพ็ญก็เดินตรงไปยังห้องเล็กของมุกตาภาทันที....

ทั้งๆ ที่สั่งตัวเองว่าจะไม่เสียใจ เพราะเธอก็ไม่ได้รักเขา และเธอจะไม่รักใครอีกแล้ว แต่มุกตาภาก็อดเศร้าโศกจนต้องกลับมานั่งร้องไห้ฟูมฟายให้กับความโชคร้ายและความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้
ทำไมเธอต้องไปพัวพันกับผู้ชายมีเจ้าของตลอด เธอก่นด่าตัวเอง ครั้งแล้วครั้งเล่า
ก็อก ก็อก ก็อก
เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้คนที่กำลังร้องไห้อย่างหนักปาดน้ำตาทิ้ง แล้วเดินไปเปิดประตูห้อง แต่ใบหน้าสวยที่ปรากฏตรงหน้า ก็แทบทำให้เธอแทบจะปิดประตูเข้าใส่...
จะตามมาตอกย้ำอะไรกันอีก...
เพ็ญ เอ่อ เพ็ญขอโทษนะคะ เพ็ญไม่ดีเอง ทั้งๆ ที่คุณเป็นเมียตบแต่งแท้ๆ เสียงของหล่อนเศร้าสลดยิ่งนัก และเมื่อเห็นคนฟังยืนนิ่งไม่โต้ตอบอะไรออก นางมารร้ายซ่อนรูปจึงใส่ไฟเข้าไปอีก
เพ็ญไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างนี้เลยสักนิดค่ะ แต่นายเหมืองสิค่ะ ทนคิดถึงเพ็ญไม่ไหว เลยรับขวัญเพ็ญเสียน่วมตั้งแต่หน้าประตูเลยน่ะค่ะ
ไม่เป็นไรค่ะ จะพูดแค่นี้ใช่ไหมคะ มุกขอตัวพักผ่อน
มุกตาภาเอ่ยตัดความรำคาญเสียงห้วน แล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องฟังว่าทั้งคู่รักกันเพียงใด ไม่ใช่เรื่องของเธอ
คุณมุกอย่าโกรธเพ็ญเลยนะคะ ที่นายเหมืองทำ ก็เพราะเรารักกันมาก่อนน่ะค่ะ นายเหมืองแค่ไม่อยากขัดคำขอของคุณหญิงอรวรา
คนได้ทีก็ไส่ไคล้ให้คนที่จิตใจอ่อนไหวเป็นทุนเดิมฟัง สายตารู้สึกผิดก็ส่งตรงมามองดวงตากลมโตทว่าแดงช้ำของมุกตาภาอย่างขอความเห็นใจ
มุกตาภาสะบัดหน้าหนีไม่อยากมองคนตรงหน้าให้ตัวเองอ่อนแอไปมากกว่านี้
แต่เพ็ญเจียมตัวอยู่เสมอนะคะ ว่าตัวเองก็คงเป็นได้อยู่แค่นี้
วันเพ็ญยกมือขึ้นกรีดน้ำตาที่พยายามกลั่นออกมาเรียกคะแนนสงสาร ก่อนยืนสะอื้นไห้ ให้มุกตาภารู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีก
ภรรยาป้ายแดงอย่างเธอโกรธคนมาก่อนไม่ลงจริงๆ ถ้าพวกเขาทั้งคู่รักกัน เธอก็พร้อมจะหลีกทางให้ ไม่ต้องการเป็นมือที่สามของใครอีกครั้ง
อย่ากังวลไปเลยค่ะ มุกเข้าใจดีค่ะ ขอตัวนะคะ ดึกแล้ว
มุกตาภาลาด้วยหัวใจที่เบาหวิว ปิดประตู แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนร้องไห้จนหลับไปในที่สุด
ในเมื่อไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ทำไมเธอถึงเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้....

เช้านี้ มุกตาภาตื่นขึ้นมาด้วยสมองที่ยังหนักอึ้ง เพราะนอนขบคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมาทั้งคืน หลับๆ ตื่นๆ นอนไม่เต็มอิ่มเท่าใดนัก แต่ก็ไม่อยากแช่ตัวอยู่กับเตียงให้คิดมากอีกต่อไป อากาศนอกเมืองในยามเช้าแบบนี้ ถ้าได้สูดดม คงสดใสสบายปอดน่าดู และมันคงทำให้เธอสบายตัวสบายใจขึ้นได้บ้าง
ร่างเล็กจึงเด้งขึ้นจากเตียง แล้วจัดการทำธุระส่วนตัว เพื่อออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก ทว่ามุกตาภาก็สะดุดเล็กน้อยเมื่อก้าวออกมานอกห้อง เพราะกลัวว่าจะเห็นภาพบาดตาอีกครั้ง แต่ทางเดินที่ว่างเปล่า ก็ทำให้มุกตาภาถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนก้าวเดินต่อไป
ทว่าในขณะหญิงสาวเดินผ่านห้องใหญ่ของสามี ประตูห้องก็ถูกเปิดออก พร้อมร่างอิ่มของวันเพ็ญที่ผมเผ้าชี้ฟูและ เสื้อผ้ายับยู่ยี่เดินออกมาจากห้องพอดี
อุ๊ย หล่อนแกล้งอุทาน ราวกับว่าเสียใจที่ต้องโผล่ออกมาจากห้องนายเหมืองหนุ่มในยามนี้
ขอโทษนะคะ เพ็ญนี่เป็นบ่าวที่ไม่ได้เรื่องเลย ตื่นหลังนายหญิงเสียอีก น้ำเสียงของคนแผนสูงนั้นรู้สึกผิดยิ่งนัก
วันเพ็ญแกล้งแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าหล่อนเพิ่งออกมาจากห้องนายเหมือง ทั้งที่จริงแล้ว หล่อนถูกไล่กลับห้องพักของตัวเองตั้งแต่เมื่อคืน เพราะอิศม์เดชไม่เคยนอนร่วมเตียงกับหล่อนจนถึงเช้าเลยสักครั้ง แม้กระทั่งเมื่อคืน ที่เขาแทบหลับไปทันที หลังจากเดินทางไปเยือนสวรรค์พร้อมๆ กับเธอ
หากชายหนุ่มก็ยังมีแรงเหลือ ออกปากไล่หล่อนออกมาจากห้องจนได้
แต่คนมีแผนกำจัดศัตรูหัวใจก็เตรียมพร้อมเสมอ หล่อนกลับขึ้นมารอท่าอยู่ในห้องนอนของชายหนุ่มในตอนเช้า แล้วพอได้ยินเสียเปิดประตูจากห้องนอนเล็ก หล่อนก็จัดแจงให้ตัวเองมีสภาพราวกับว่าเพิ่งผ่านศึกรักมาอย่างหนัก ก่อนเปิดประตูออกมาดักรอเจอมุกตาภา อย่างที่หล่อนทำอยู่ตอนนี้
พอดีเมื่อคืนนายเหมือง เอ่อ เพ็ญก็ไม่รู้ว่านายเหมืองไปเอาแรงมาจากไหนเหมือนกัน....ตอนนี้ก็ยังหลับลึก ลุกขึ้นไม่ไหวอยู่เลยค่ะ คุณคงต้องทานอาหารเช้าคนเดียวอีกครั้งนะคะ
หล่อนรายงานราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ หากคนฟังรู้สึกผิดปกติไปทันใด
และวันเพ็ญก็โกหก จริงๆ อิศม์เดชตื่นและเข้าไปในเหมืองตั้งแต่เช้าแล้ว
แต่ที่หล่อนไม่ได้ปดคือเรื่องความร้อนแรงของอิศม์เดชเมื่อคืนต่างหาก
เพราะนายเหมืองของหล่อนเร่าร้อนจนหล่อนเมื่อยขบไปทั้งตัว เขาทำราวกับว่า ไปอดอยากปากแห้งมาจากไหน ทั้งๆ ที่ขึ้นกรุงเทพไปเพียงสี่วัน ขนาดว่าไม่เรียกหาหล่อนเป็นอาทิตย์ๆ หรือแม้แต่เป็นเดือนๆ นายเหมืองยังไม่ร้อนแรงและดุดันเยี่ยงนี้มาก่อน...
วันเพ็ญยิ้มกริ่ม ดูท่าอิศม์เดชคงจะติดใจรสรักของหล่อนเข้าเสียแล้ว
มุกตาภายืนฟังด้วยหัวใจที่เต้นอย่างอ่อนแรง เธอยังไม่ได้ทันชาร์ตแบ็ตให้กับตัวเอง เธอก็ต้องหมดแรงสู้ชีวิตไปอีกครั้ง
คุณจะรับอะไรเป็นอาหารเช้าดีคะ เพ็ญจะไปเตรียมให้
วันเพ็ญทำตัวเป็นบ่าวที่ดี กัดฟันบริการมารหัวใจตัวเอง
มะ เป็นไรค่ะ มุกไม่หิว ขอบคุณนะคะ ใครจะไปกินอะไรลง...
เธอตอบด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ก่อนหันหลังหนี เดินตัวสั่น กลับเข้าไปยังห้องนอนที่เพิ่งจากมา
ทิ้งให้คนมองกระตุกยิ้มเย้ยหยันตามหลังอย่างสะใจ ไม่ต้องออกแรงมาก มารหัวใจของหล่อนก็จะกระเด็นออกไปจากเส้นทางรักของหล่อนกับนายเหมืองได้อย่างง่ายๆ

No comments:

Post a Comment