ตอนที่ 2. Physically Scarred: มลทินอสูร
เต็มๆ ไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ http://writer.dek-d.com/blip/story/view.php?id=659694
ร่างกชมนถูกวางลงบนเตียงขนาดเล็ก เมื่ออนรรฆวีก้าวเข้ามาภายในห้องนอนมืดทึมบนชั้นสองซึ่งโล่งไร้เฟอนิเจอร์ตกแต่งห้อง ยกเว้นเก้าอี้หนึ่งตัว แตกต่างจากส่วนอื่นๆ ในบ้านหลังนี้ซึ่งถูกตกแต่งไว้อย่างทันสมัยสวยงามราวฟ้ากับเหว
ป้าอิ่มที่รู้หน้าที่ก็เดินไปเปิดม่านเพื่อให้แสงสว่างสอดผ่านเข้ามาในตัวห้อง เพื่อช่วยลดบรรยากาศอันมืดอึมครึมที่เป็นผลมาจากใบหน้าเรียบเฉยของนายจ้างเสียมากกว่า ทว่าเสียงทุ้มก็ร้องห้ามไว้ทันที
“ไม่ต้องเปิดครับ”
เสียงของคนไม่ต้องการความสว่างในห้องทำเอาหัวใจคนแก่แทบหยุดเต้น ป้าอิ่มก้มหน้าก้มตารับคำ ก่อนจัดการปิดม่านที่เปิดมาได้ครึ่งทางแล้วไปไว้อย่างเดิม ห้องที่มืดอยู่แล้ว จึงยิ่งดูน่ากลัวขึ้นไปอีก เพราะร่างใหญ่ที่กำลังแผ่รังสีอะไรสักอย่างออกมาจนป้าอิ่มขนลุก
“คุณเสืออยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ ป้าจะได้เตรียมไว้ให้”
แม่บ้านสูงวัยถามถึงอาหารมื้อค่ำที่จะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“ป้าออกไปได้เลยครับ มีอะไรผมจะเรียกหาเอง”
เจ้านายหนุ่มไม่คิดตอบคำถาม กลับออกปากไล่แทน ใบหน้าคมที่ยังเรียบเฉยหันมาส่งสายตาดุคมเพื่อย้ำคำสั่งของตัวเองด้วย แล้วร่างผอมบางของป้าอิ่มจึงรีบเดินแกมวิ่งออกไปจากห้องแทบไม่ทัน
อนรรฆวีหันมามองเหยื่อสาวที่ยังสลบไสลไม่รู้เรื่องราวอีกหน ก่อนหย่อนร่างสูงใหญ่ตามชาติพันธุ์ลงนั่งบนเตียงนั่นด้วย ดวงตาคมก็จดจ้องร่างอิ่มที่ดูน่ามองยิ่งนักไม่วางตา และหญิงสาวก็ดูมีเสน่ห์น่าสัมผัสทั้งๆ ที่ยังหลับอยู่แท้ๆ
“ฟื้นได้แล้วกชมน...อย่าให้ฉันต้องรอนาน...”
ชายหนุ่มเขย่าปลุกร่างน้อยเบาๆ ก่อนเอื้อมไปปัดปอยผมซึ่งหล่นมาปรกหน้าออก เผยให้เห็นดวงหน้าหวานที่ทำเอาเขาลมหายใจสะดุดเมื่อได้เห็นหน้าเธอครั้งแรก
อนรรฆวีไล่สายตาพิจารณาวงหน้าหวานรูปไข่ที่มีเครื่องประกอบอย่างลงตัว และมองเท่าใดก็ไม่รู้เบื่อนั่น ดวงตากลมโตที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกตาอันปกคลุมด้วยแพขนตางามงอน และคิ้วได้รูปที่วางพาดอย่างเป็นระเบียบอยู่ด้านบน จมูกโด่งสวยก็รับกับเครื่องหน้าส่วนอื่นๆ ได้อย่างเหมาะเจาะ พวงแก้มนุ่มที่เขาอดไล้นิ้วไปมาไม่ได้ แล้วไหนจะกลีบปากอิ่มสีชมพูหวานนั่นอีก
ยิ่งพิศยิ่งมอง หญิงสาวก็ดูน่ารักน่าสัมผัสและน่าทะนุถนอมไปเสียทุกสัดส่วน น่าเสียดายที่เขาคงจะอ่อนโยนนุ่มนวลกับสาวเจ้าไม่ได้
“เพื่อไม่ให้เสียเวลา...”
น้ำเสียงทุ้มเปรยขึ้น พร้อมๆ กับมือหนาเลื่อนจากพวงแก้มนุ่มมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นพอดีตัวบนร่างกชมนออกอย่างช้าๆ เนินอกอวบที่ค่อยๆ เผยโฉมและดันกันอย่างอึดอัดทว่าสวยงามภายใต้บราเซียร์สีหวานนั้นทำเอาอนรรฆวีเริ่มรู้สึกว่าหายใจไม่ทั่วท้อง
เขาไม่ใช่หนุ่มน้อยด้อยประสบการณ์ที่จะมามือไม้สั่นกับการลองรักครั้งแรก หากดูเหมือนมันใช้ไม่ได้กับครั้งนี้หรืออย่างไรกัน เพราะแค่ได้เห็น สมาธิของคนที่จดจ่ออยู่กับแผนทวงแค้นให้ผู้มีพระคุนวอกแวกจนแทบควบคุมไม่อยู่
จากนั้น ชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปด้านหลัง ปลดตะขอที่โอบอุ้มดอกบัวคู่งามเอาไว้ แล้วสลัดทิ้งตามเสื้อเชิ้ตไปอย่างง่ายดาย ไร้การขัดขืนของเจ้าของคนสวย ทว่าคนเห็นก็ตะลึงในความงดงามจนแทบลืมหายใจ ไม่น่าเชื่อว่าร่างเล็กที่ดูแบบบางของเธอจะอวบอิ่มดูเต็มไม้เต็มมืออย่างที่เห็น เขาอดครางอย่างชื่นชมไม่ได้
อนรรฆวีลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อรับรู้ถึงความเร่าร้อนในตัวที่ถูกปลุกขึ้นราวกับได้รับหัวเชื้อเพลิงชั้นดี กลิ่นสาบสาวหอมกรุ่นก็ลอยมาแตะจมูกโด่งระลอกแล้วระลอกเล่า ทำให้เขาต้องกัดฟันต้องหลับหูหลับตากำจัดภรณ์ที่เหลือออกจากร่างงามอย่างเร่งรีบทุลักทุเล จนกางเกงขาสามส่วนสีดำและชั้นในชิ้นจ้อยไปลอยละลิ่วไปกองกับพื้นตามชิ้นก่อนๆ ด้วย
ร่างใหญ่ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อทำงานง่ายๆ ที่กินเวลาไปพอสมควรได้สำเร็จ...เล่นเอาเขาเหงื่อตก และมีอาการเหมือนคนไม่เคยเห็นผู้หญิงเปลือยมาก่อน
นั่นเพราะร่างอิ่มเปลือยเปล่าขาวนวลราวกับนมสดนั้นช่างดูล่อลวงตาและเย้ายวนหัวใจคนเห็นยิ่งนัก และแม้แสงในห้องจะมีเพียงน้อยนิด ดวงตาคมกริบของเขากลับเห็นทรวงอกอิ่มก็ผลิบานชูช่ออย่างเชื้อเชิญ และกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจอย่างชัดเจน และมันก็ส่งผลต่อร่างใหญ่อย่างรุนแรง ชายหนุ่มต้องขบกรามแน่นจนมันแทบหักเพราะไม่ต้องการให้อารมณ์รัญจวนขึ้นมาอยู่เหนือหน้าที่อันแสนสำคัญยิ่งของตัวเอง
ให้ตายสิ ทำไมต้องใจสั่นด้วย อนรรฆวีก่นด่าตัวเอง ก่อนผละตัวลุกขึ้นยืน แล้วหันหลังหนีภาพสวยงามสะคราญไร้ที่ติตรงหน้า แล้วเดินไปนั่งตรงเก้าอี้เพื่อรอให้เหยื่อสาวฟื้นลืมตาขึ้นมาอย่างอดทน...
ในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา ร่างเล็กที่นอนไร้สติอยู่บนเตียงขยับตัวเล็กน้อยอย่างเมื่อยขบ รู้สึกราวกับว่าตัวเองนอนอยู่พื้นแข็งๆ มาเป็นเวลานาน เปลือกตาซึ่งรายล้อมไปด้วยแพขนตางามงอนทว่าหนักอึ้งก็ค่อยๆ ปรือเปิดขึ้น ก่อนกะพริบขึ้นลงสองสามครั้งอย่างง่วงงุน
แล้วสิ่งที่เห็นคือเพดานห้องที่มีพัดลมแขวนอยู่หมุนอยู่...ที่ไหน เธอคิดอย่างงุนงง
กชมนพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างโงนเงน ก่อนสลัดศีรษะเล็กของตัวเองไปมาเบา แล้วคิดทบทวนอย่างหนักว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ในเมื่อความจำสุดท้ายคือการนั่งอยู่บนรถตู้ซึ่งบริษัทส่งไปรับที่บ้าน ที่นี่ที่ไหนกัน แล้วทำไมเธอถึงได้มานอนอยู่บนเตียงแข็งๆ ในห้องมืดๆ แบบนี้ได้
มือน้อยยกขึ้นจับสัมผัสร่างกายของตัวเองโดยอัตโนมัติ พื่อสำรวจความผิดปกติของตัวเอง ทว่าเธอกลับพบความว่างเปล่าโล่งโจ้ง ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวเธอสักชิ้น มันเกิดอะไรขึ้น
“กรี๊ด” กชมนกรีดร้อง ตกใจจนแทบเสียสติ น้ำตาเอ่อท่วมเบ้าตาสวยหวาน มือน้อยลนลานคว้าผ้าห่มมาปกคลุมร่างกายของตัวเองทันที
ดวงตากลมโตที่ฉายแววแห่งความตื่นตระหนกกราดมองไปทั่วๆ ห้อง ก่อนมันต้องเบิกโพลงด้วยความตื่นกลัว เมื่อเธอเห็นร่างสูงใหญ่ของ ‘ผู้ชายคนนั้น’ ยืนถมึงทึงอยู่ตรงกลางห้อง และในความเลือนลาง เธอกลับเห็นชัดว่าเขากำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตบนตัวออกอย่างเชื่องช้า...
ร่างเล็กผวาเฮือก ความกลัวแล่นปราดไปจับอยู่ตรงขั้วหัวใจ...
“อะ อะไรนะ คะ คุณเป็นใคร”
เธอถามเสียงสั่นสะริก พร้อมๆ กับถอยกรูดจนไปติดหัวเตียง เพื่อหนีร่างใหญ่ที่กำลังย่างสามขุมมายังเตียงแข็งๆ นี่ด้วย
อนรรฆวีลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับปลดปราการบนร่างทิ้ง เมื่อเห็นร่างเล็กโงนเงนผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียง แล้วเขาก็ค่อยๆ เดินอย่างย่ามใจตรงไปที่เตียง ไม่ต่างกับเสือร้ายที่กำลังออกล่าเหยื่อตัวน้อยเลยสักนิด
“ฝันร้ายของเธอยังไงล่ะ...กชมน”
คนที่รอเวลานี้มานานแล้วตอบเสียงดังฟังชัด ทำเอาคนฟังขนลุกซู่ประหนึ่งมีเงาอำมหิตพาดผ่านลำตัวที่สั่นระริกด้วยความกลัว อีกทั้งเงาทะมึนของร่างสูงใหญ่นั้นยังคืบคลานเข้ามาใกล้ ไม่ต่างกับภัยร้าย พร้อมๆ กับเสื้อผ้าที่หลุดพ้นร่างใหญ่ออกไปทีละชิ้นในทุกย่างก้าว
“อะ อะไรนะ คะ คุณกะ กำลังจะทำอะไร”
คนที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกถามเสียงสั่น หัวใจเต้นกระหน่ำจนมันแทบหลุดออกมาจากขั้ว แล้วร่างเปลือยเปล่าที่โดนเจ้าของสลัดอาภรณ์ทิ้งจนหมดทำเอาเธอหัวใจจะวายตาย เพราะมันช่างดูใหญ่โตน่ากลัวเสียเหลือเกิน และถึงเขาไม่ตอบ เธอก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรกับตัวเองในอนาคตอันใกล้นี้
กชมนกลัวจนตัวแข็งทื่อ ได้แต่นั่งสั่นสะท้านขนลุกซู่อยู่ที่เดิม ทั้งๆ ที่สมองซึ่งเพิ่งใช้การได้เพียงน้อยนิดสั่งให้พาตัวเองหนีไปจากเหตุการณ์อันเลวร้ายที่สุดในชีวิตลูกผู้หญิงเช่นนี้ หากมันทำไม่ได้ เพราะโดนสายตาคมกริบของเขาตรึงเอาไว้แน่น ด้วยดวงตาคมที่เหมือนจะฆ่าคนเห็นให้ตายเพียงแค่ได้สบตาเท่านั้น
“นอนกับเธอ”
อนรรฆวีตอบเสียงเย็นชา สายตาคมก็กำลังแผดเผาเธอให้ตายทั้งเป็น ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอน่าจะตายไปเพราะความกลัวไปแล้ว
“ดะ...ได้โปรดอย่าทำอะไรบัวเลยนะคะ...กรุณาบัวเถอะนะคะ...บัวขอร้อง”
กชมนร่ำร้องขอด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต สองมือน้อยยกไหว้ขอความเห็นใจท่วมหัว น้ำตาไหลพรากยิ่งกว่าสั่งได้ ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยพบพานสถานการณ์น่าหวาดกลัวเยี่ยงนี้มาก่อน ไม่...แม้กระทั่งกับบิดาผู้ซึ่งนำพาแต่ความเจ็บปวดมาสู่ชีวิตอันอาภัพของเธอ
ทว่าแทนที่จะเห็นใจกับภาพช่างน่าเวทนาของหญิงสาว ชายหนุ่มกลับทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่เธอร้องขอโดยสิ้นเชิง
“กรี๊ดดด อย่า”
กชมนกรีดร้องลั่นราวกับคนเสียขวัญสูญสิ้นสติ เมื่อร่างใหญ่กระโจนขึ้นมาบนเตียงแล้วโถมทับเธอเอาไว้ทั้งตัว พร้อมกอดรัดร่างเล็กเอาไว้ใต้ร่าง และเก็บกับเธอไว้ใต้อาณัติ ไร้หนทางหลบหนี ร่างเล็กที่ยังอ่อนแรงนักทั้งดิ้นทั้งทุบทั้งข่วนร่างใหญ่เป็นพัลวัน ทำทุกวิถีทางให้หลุดพ้นจากพันธการร้ายของเขาให้ได้
“อย่าทำอะไรบัวเลยนะคะ”
ร่างเล็กพยายามสลัดตัวหนีฝ่ามือคีมเหล็กของเขาสุดชีวิต ทว่าไร้ผล เพราะวงแขนแข็งแรงที่กอดรัดร่างเล็กแน่นราวกับกรงเหล็กชั้นดี และเขาก็ลงแรงบีบรัดเธอเสียจนหายใจไม่ออก กชมนสะอื้นฮัก ตัวสั่นยิ่งกว่าลูกนกตกน้ำที่กำลังจะจมน้ำตาย เมื่อนึกถึงชะตาชีวิตอันน่าอดสูของตัวเองที่ต้องมาพบเจอเรื่องราวเช่นนี้ ต้องมาเจอผู้ชายโหดเหี้ยมร้ายกาจเช่นเขา
“ยอมฉันดีๆ...อย่าให้ฉันต้องใช้กำลังเลยกชมน...เพราะเธอจะเจ็บตัวเสียเปล่าๆ”
น้ำเสียงทุ้มของเขาช่างเยือกเย็น ใบหน้าคมถมึงทึงดูไร้ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น ทว่าคงมีแค่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ว่าเลือดในร่างใหญ่เดือดพล่านเพียงใดกับความสดสวยทุกหยาดยดของคนใต้ร่าง และแรงเสียดสีของร่างเล็กที่ปลุกเร้าจนเขาลุกโชนไปด้วยเพลิงไฟแห่งปรารถนา...ขึ้นอย่างง่ายดาย
“ไม่ๆ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ปล่อยนะ ไอ้คนเลว ไอ้คนชั่ว”
กชมนกลับไม่ฟัง ร้องขอความช่วยเหลือลั่น ทั้งยังก่นด่าชายแปลกหน้าซึ่งกำลังรุกรานตัวเองในแบบที่ไม่เคยได้หลุดปากเอ่ยว่าใครมาก่อนในชีวิต ร่างเล็กดิ้นพรวด ไม่สนคำสั่งของเขา เขาคงบ้าไปแล้ว จะมีใครหน้าไหนยอมโดนรังแกกันง่ายๆ มือเล็กที่ปัดป่ายสุดชีวิตก็ข่วนเข้าตรงลำคอแกร่งเต็มแรง
คนโดนข่วนสะดุ้งด้วยความเจ็บแปลบ มือหนายกขึ้นลูบตรงต้นคอที่มีรอยแผลแสบจากกรงเล็บเล็กนั่น ดวงตาคมถลึงมองคนที่กำลังตกใจกับการกระทำของตัวเองไม่แพ้กันอย่างแค้นเคือง
“ฉันเตือนเธอแล้วนะกชมน”
อนรรฆวีเค้นเสียงอย่างเดือดดาล พลางรวบมือช่างประทุษร้ายไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว แล้วตรึงไว้กับที่นอนแน่น ก่อนก้มหน้าคมลงซุกไซ้ขบเม้มซอกคอหอมกรุ่นราวกับบ้าระห่ำ ตะโบมจูบอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่มือหนาอีกข้างบีบเคล้นฟอนเฟ้นร่างงามที่เจ้าของยังเบี่ยงหนีสุดชีวิต
เขารู้จักชื่อเธอได้ยังไง และเธอไปทำอะไรเขา ทำไมเขาถึงได้ทำร้ายเธอแบบนี้
“กรี๊ด ช่วยด้วย ไม่ๆ อย่าทำฉะ...”
คนที่กลัวจะขึ้นสมองร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าสงสาร ใบหน้านวลซีดเซียวยิ่งว่ากระดาษเพราะกลัวผู้ชายกักฬะป่าเถื่อนคนนี้เหลือเกิน ร่างเล็กร้าวระบมไปทั่วตัวจากสัมผัสจาบจ้วงของเขาเหลือคณา
ทว่าเสียงประท้วงถูกกลืนหายไปเมื่อเขาประกบกลีบปากอิ่มไว้ แล้วบดขยี้จูบอย่างดุดันและเอาแต่ใจ ไร้ความอ่อนโยน อนรรฆวีกระแทกกระทั้นจุมพิตแรกของกันและกันจนเนื้ออ่อนบนกลีบปาอิ่มบวมเจ่อไม่พอ เธอยังได้ลิ้มรสคาวของเลือดคละคลุ้งไปหมด
ฝ่ามืออุ่นร้อนลูบไล้สำรวจร่างอวบอิ่มอย่างถือสิทธิ์ บีบเคล้นหนักหน่วง สร้างรอยแดงไปทุกอณูเนื้อที่เขาลากผ่าน เรียกเสียงครางอย่างเจ็บปวดเล็ดลอดผ่านกลีบปากอิ่มที่ยังโดนประกบจูบไม่ขาดสาย ทรวงอกคู่งามก็โดนบีบเคล้นอย่างหนักหน่วง ก่อนที่เรียวปากร้อนจะตามมาครอบครองยอดอกอิ่มซึ่งชูช่อล่อตาเขามานานแล้ว
อนรรฆวีดูดกลืนสลับขบเม้มอย่างหิวกระหายราวขาดน้ำมาเป็นแรมปี เหมือนกับคนลุ่มหลงหลงระเริงกับความหอมละมุนของเนื้อสาวสะพรั่ง และเขาเพิ่งได้เด็ดดมเธอเป็นครั้งแรก ส่งผลให้เขาแข็งขึงปวดหนึบไปหมด
ร่างกายที่เคยต่อต้านอ่อนระทดระทวยกับสัมผัสซาบซ่านที่แล่นปราดเข้ามา กายสาวไร้ประสบการณ์บิดเร่าอย่างทุกข์ทรมานกับการปลุกเร้าลูบไล้โลมเล้าในแบบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต เรียวปากร้อนจัดของเขาที่ดูดดึงอย่างเร่าร้อนอยู่บนยอดอกอันชูช่อเด่นสล้างตระการตา และฝ่ามือร้อนๆ ที่ฟอนเฟ้นอย่างรุนแรงอยู่กับทรวงอกสล้างหนั่นแน่นนั่นสร้างความปั่นป่วนในช่องท้องอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
หากในทันทีที่มือหนาเลื่อนต่ำไปสัมผัสส่วนที่ลี้ลับสวยงามบนกายสาว กชมนก็สะดุ้งสุดตัว บีบขาเข้าหากันแน่น กระถดตัวหนีอย่างหวาดกลัว
“ปะ ปล่อย...อย่าทำบัวเลยค่ะ”
กชมนที่ไม่ยอมปล่อยให้ความวาบหวิวในช่องท้องและอารมณ์รัญจวนที่โหมแรงขึ้นมาอยู่เหนือจิตใต้สำนึก ออกแรงดิ้นหนีเอาตัวรอดอีกครั้ง จะเป็นตายร้ายดี เธอไม่ขอยอมให้ชายแปลกหน้ามาข่มเหงน้ำใจแบบนี้
“บอกให้ยอมฉันดีๆ ไง”
อนรรฆวีเงยหน้าขึ้นเตือนอย่างรำคาญ ใช้ร่างใหญ่ตรึงร่างเล็กไว้ นิ้วแกร่งก็ยังกรีดไล้อยู่บนกลีบสวยใจกลางร่างสาวที่ไม่เคยมีใครได้แตะต้องมันก่อน จนเขาสัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำติดปลายนิ้วมือ เพราะไม่อาจต่อสู้กับแรงกระตุ้นฝ่ายต่ำที่โดนปลุกขึ้นมาจากภายในกายร้อนผ่าวของเธอ รอยยิ้มเหยียดระบายบนหน้าคมอย่างพึงพอใจ
“อื้อ ไม่ อย่า อย่า อย่าทำอะไรบัวเลยนะคะ บัวกลัว”
กชมนร่ำไห้ ดิ้นหนีสัมผัสที่รุกรานและรุมเร้าอยู่บนร่างเล็กอย่างสุดกำลัง มือน้อยที่โดนเขาปล่อยให้เป็นอิสระทุบตีไปบนร่างใหญ่ด้วยความขยาด ดวงหน้าหวานที่เจิ่งนองด้วยน้ำตาสายไปมาอย่างไม่ยอมรับกับคำสั่งของเขา
“เมื่อพูดดีๆ แล้วไม่ฟัง ฉันก็จะไม่เกรงใจ”
อนรรฆวีแยกเขี้ยวขู่จนคนฟังขนลุกซู่ ก่อนจัดการกระชากเรียวขาเรียวสวยแยกออกจากกัน พร้อมๆ กับกดแก่นกายร้อนแกร่งสอดแทรกเข้าไปในกายสาวอย่างดุเดือดเลือดพล่าน แต่ไม่รู้ว่าเพราะร่างกายอันใหญ่โตของเขาหรือเพราะความไม่พร้อมของเธอที่ทำให้มันไม่ใช่เรื่องง่ายต่อการฝ่าความเต็มแน่นเข้าไปได้
ลบแล้วจ้าาา รออ่านเต็มๆ จากในหนังสือนะจ๊ะ
อนรรฆวีที่ซวนซบลงบนร่างเล็กหลังจากระเบิดความสุขไปอย่างทะลักทลายเมื่อสักครู่ยกตัวขึ้นมองร่างเล็กที่ดูยับเยินไม่ต่างจากดอกบัวสีขาวที่โดนเขาขยี้จนแทบแหลกคามือ ดวงหน้าหวานซีดเซียวไร้สีเลือดและเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เสียงสะอื้นน้อยๆ ในลำคอยังมีออกมาไม่ขาดสาย
กรามแกร่งถูกขบเข้าหากันแน่น เมื่อความรู้สึกผิดแล่นวาบเข้ามาเกาะกินในหัวใจ ดวงตาคมฉายแววความเห็นใจอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ แต่มันเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมไร้ความปรานีเช่นดังเดิม
ร่างใหญ่ที่มีจิตใจอันมืดมิดครอบคลุมไปด้วยเพลิงแค้นเริ่มขยับเขยื้อนตัวอีกครั้ง เพื่อทำตามความตั้งใจและภารกิจสำคัญที่เขาต้องทำให้สำเร็จ ด้วยการนำพาตัวเองไปเยือนดินแดนแห่งความหฤหรรษ์เพียงลำพังนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่สนว่าคนใต้ร่างจะยับเยินบอบช้ำเพียงใด...
คอยติดตามผลงานของพี่สาวคนนี้มาตลอดค่ะ และสัญญาว่าจะติดตามผลงานของพี่ตลอดไป ..
ReplyDeleteโหดร้ายยยย ที่สุดดดด!!
ReplyDeleteโฮฮฮ บีบคั้นมากมาย T T
หรือว่าชั้นจะตัวใหญ่เกินไป เอิ่มมมมม ไม่ไหวนะ 5555 กรี๊ดมากอ่ะ เลือดจะหมดตัวแล้วค่าาา ^^
ReplyDeleteติดตามอย่างเงียบและเรื่อยๆเสมอมา
เลวมากกกกก เสือโหด
ReplyDeleteHe's so mean ka Pi Kung. TT^TT
ReplyDeleteจะเข้าแล้วออกไปเฉยๆ ก็กระไรอยู่มากรีดร้องตบจิกศีรษะพี่เสือร้ายกระแทกเสาเข็มสักทีดีไหม พี่ท่านจะโหดร้ายไปไหนฮะ ฮึ่มๆๆๆ หนอนี่หนอถ้าไม่ใช่พระเอกนะ สวดส่งวิญญาณไปแล้วววววว shit!!!
ReplyDeleteไอ้พี่เสือขอเลาะหนังไปทำพรมเช็ดเท้าได้มะ อยากแล่หนังออกมาซะจริงๆ
ReplyDeleteจะแก้แค้น ก็ทำให้ถูกคนหน่อยสิ ไปลงอะไรกับคนที่เค้าไม่รู้เรื่องด้วยเนี่ย
จะโหดมากไปแล้วนะ! ถ้าวันหนึ่งรักเขาขึ้นมาเมื่อไร น้ำตาจะเช็ดหัวเข่า..ชิส์!
ReplyDeleteนางเอกช่างน่าสงสารมากเลยค่ะ คนฮาม
ReplyDelete